เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล สำหรับลูกค้า

บริษัท เทรชเชอร์ อินโนเวชั่น จำกัด

โดยที่ บริษัท เทรชเชอร์ อินโนเวชั่น จำกัด (“บริษัทฯ”) ได้ตระหนักถึงความสำคัญของข้อมูลส่วนบุคคลของท่านที่ได้มอบให้แก่บริษัทฯ ด้วยความไว้วางใจ และบริษัทฯ มีความจำเป็นที่จะต้องปฏิบัติตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เพื่อเป็นการรับรองสิทธิของบุคคลที่จะต้องได้รับความคุ้มครองเกี่ยวกับการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ได้แก่ การเก็บรวบรวม การบันทึก และการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อการดำเนินงานของบริษัทฯ ดังนั้น บริษัทฯ จึงขอแจ้งให้ท่านโปรดอ่านเอกสารฉบับนี้เพื่อรับทราบและทำความเข้าใจในวัตถุประสงค์ ถึงรายละเอียดของการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลดังกล่าวซึ่งมีรายละเอียด ดังนี้

1. คำนิยาม

            ลูกค้า หมายถึง ผู้ใช้บริการสินค้า-บริการ ประเภทต่างๆจากบริษัทฯ และ/หรือผู้ที่อยู่ในระหว่างตัดสินใจทำธุรกรรมสั่งซื้อสินค้า-บริการประเภทต่างๆ จากบริษัทฯ รวมถึงผู้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ กับบริษัทฯเช่น กิจกรรมส่งเสริมการขาย กิจกรรมตอบแบบสอบถามเกี่ยวกับบริการของบริษัทฯ ผู้ใช้บริการเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน ผู้ติดต่อขอรับข้อมูลหรือขอรับบริการจาก
บริษัทฯ เป็นต้น

ผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า หมายถึง บุคคลที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า และ/หรือผู้ที่เป็นตัวแทนในการรับบริการของลูกค้า
ผู้ติดต่อที่ลูกค้าได้ให้ข้อมูลส่วนบุคคลไว้ หรือที่ปรากฏในเอกสารต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับการใช้บริการจากบริษัทฯ

2. ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม และแหล่งที่มาของข้อมูล

         
          2.1 แหล่งที่มาของข้อมูลส่วนบุคคล
          บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาต่างๆ ดังนี้
          (ก) โดยทางตรง ที่ท่านให้ไว้กับบริษัทฯ เช่น การกรอกแบบฟอร์มต่างๆ ผ่านเว็บไซต์ แอปพลิเคชัน การใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน การส่งคำขอใช้บริการ การเข้าทำสัญญาซื้อขายกับบริษัทฯ การสอบถามข้อมูลการให้ความเห็นหรือคำติชม หรือส่งข้อร้องเรียนผ่านช่องทางต่างๆ เช่น ทางโทรศัพท์ อีเมล (E-mail) โทรสาร ไปรษณีย์ 
แอปพลิเคชัน เป็นต้น รวมถึงการที่ท่านส่งข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้แก่บริษัทฯ ทั้งในส่วนของแอปพลิเคชัน ไลน์ออฟฟิเชียล (LINE Official) อีเมล (E-mail) และส่วนของการสนทนาทางโทรศัพท์
          (ข) โดยทางอ้อม บริษัทฯ อาจเก็บรวบรวมจากแหล่งอื่นๆ เช่น ผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้าที่ท่านได้ให้ไว้ บุคคลที่สาม แหล่งข้อมูลสาธารณะ เป็นต้น         
          (ค) ในกรณีที่บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้ก่อนวันที่ พระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับเต็มรูปแบบ บริษัทฯ จะเก็บรวบรวมและใช้ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านต่อไปตามวัตถุประสงค์เดิมที่บริษัทฯ ได้แจ้งไว้แก่ท่านโดยท่านมีสิทธิยกเลิกความยินยอม โดยติดต่อมายังบริษัทฯ ตามช่องทางที่ระบุไว้ในข้อ 7. บริษัทฯ ขอแจ้งให้ท่านทราบว่าการยกเลิกความยินยอมอาจส่งผลกระทบต่อสัญญาซื้อขายหรือสัญญารับบริการ ระหว่างบริษัทฯ กับท่าน ทำให้บริษัทฯไม่สามารถปฏิบัติตามสัญญาได้ ทั้งนี้ บริษัทฯ ขอสงวนสิทธิ์ในการพิจารณาคำขอยกเลิกความยินยอมของท่านและดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด
           
          2.2 ข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ เก็บรวบรวม
          บริษัทฯ เก็บรวบรวมข้อมูลส่วนบุคคลของท่านจากแหล่งที่มาต่างๆ ดังนี้
          (ก) ข้อมูลส่วนตัว เช่น ชื่อ นามสกุล ชื่อเล่น วัน/เดือน/ปีเกิด อายุ เพศ หมายเลขบัตรประจำตัวประชาชน เป็นต้น
          (ข) ข้อมูลการติดต่อ เช่น ที่อยู่อาศัยตามบัตรประชาชน ที่อยู่อาศัยปัจจุบัน หมายเลขโทรศัพท์ อีเมล
(E-mail) ไอดีผู้ใช้แอปพลิเคชั่นไลน์ (Line ID) ข้อมูลผู้ที่สามารถติดต่อได้กรณีฉุกเฉิน เป็นต้น
          (ค) ข้อมูลการยืนยันตัวตนหรือข้อมูลส่วนบุคคลที่มีความอ่อนไหว หรือข้อมูลชีวภาพ (Biometrics Data) เช่น
ข้อมูลสแกนม่านตา ลายพิมพ์นิ้วมือเพื่อวัตถุประสงค์ในการยืนยันตัวตนลูกค้าที่สมัครใช้บริการผ่านแอปพลิเคชันโทรศัพท์เคลื่อนที่ การแสกนม่านตาหรือการใช้ลายพิมพ์นิ้วมือแทนรหัสประจำตัว (Password) ในการทำธุรกรรมรายการซื้อขายสินค้า-บริการกับบริษัทฯ ผ่านแอปพลิเคชันทางโทรศัพท์เคลื่อนที่ ซึ่งเป็นไปตามวิธีปฏิบัติงานเกี่ยวกับการตรวจสอบและยืนยันตัวตนลูกค้าของทางบริษัทฯ และรหัส One Time Password (OTP) ที่ส่งไปยังหมายเลขโทรศัพท์ หรือ อีเมล (E-mail) ฯลฯ เป็นต้น
          (ง) ข้อมูลเกี่ยวกับการร้องเรียนเกี่ยวกับการใช้บริการ
          (จ) ข้อมูลด้านเทคนิค เช่น ข้อมูลหมายเลขประจำเครื่องคอมพิวเตอร์ (IP Address) ข้อมูลการใช้คุกกี้ (Cookies) หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน
          (ฉ) ข้อมูลจากโทรศัพท์เคลื่อนที่ตามที่ท่านให้ความยินยอม เช่น ข้อความ SMS ข้อมูลเกี่ยวกับไฟล์และภาพถ่าย (Data relating to files and photos) ฯลฯ เป็นต้น
          (ช) ข้อมูลทางภูมิศาสตร์ข้อมูลเกี่ยวกับอุปกรณ์และซอฟต์แวร์ของท่าน และรายละเอียดทางเทคนิค ข้อมูลกำหนดเฉพาะทางเทคนิคและข้อมูลเฉพาะที่ใช้ระบุตัวตน เช่นสถานที่ตั้ง ล็อก (Log) ไอดีอุปกรณ์ (Device ID) และประเภทของอุปกรณ์ ข้อมูลการเชื่อมต่อ ข้อมูลการเข้าถึง วันและเวลาที่เข้าถึง ระยะเวลาที่ใช้งาน คุกกี้ (Cookies) ประวัติการค้นหา ข้อมูลการเรียกดู หมายเลข IMEI (International Mobile Equipment Identify) ของโทรศัพท์เคลื่อนที่ หรือหมายเลขเฉพาะประจำอุปกรณ์อื่นๆ (Unique Device Identifier) รายละเอียดเกี่ยวกับโทรศัพท์เคลื่อนที่ และเทคโนโลยีบนอุปกรณ์ที่ท่านใช้งาน หรือเทคโนโลยีอื่นๆ ที่คล้ายคลึงกัน
          (ซ) ข้อมูลอื่นๆ รวมถึงข้อมูลการติดต่อกับบริษัทฯ เช่น ข้อมูลการรักษาความปลอดภัย บันทึกภาพนิ่งและภาพเคลื่อนไหวและเสียง
          (ฌ) ข้อมูลไฟล์เสียงจากการสนทนา กับลูกค้า และผู้ที่เกี่ยวข้องกับลูกค้า

3. วัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล

         
          บริษัทฯ ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลของลูกค้า โดยมีวัตถุประสงค์และฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล ดังนี้
          (ก) เพื่อวัตถุประสงค์ในการลงทะเบียนสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันของบริษัทฯ
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานสัญญา : เป็นการจำเป็นในการลงทะเบียนสมัครสมาชิกแอปพลิเคชันของบริษัทฯ เพื่อเข้าสู่ขั้นตอนการสมัครขอใช้สินค้า-บริการ ซึ่งบริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการได้เลยหากปราศจากข้อมูลดังกล่าว
               ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : เป็นการจำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ เพื่อใช้ตรวจสอบข้อมูลในการขอรับสินค้า-บริการ ประกอบการพิจารณาการให้สินค้า-บริการ และการอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

         

 

 

(ข) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทกับลูกค้า เช่น การติดต่อกับลูกค้าและผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้า การดำเนินการตามคำขอรับบริการของลูกค้า การบริหารสัญญาให้บรรลุวัตถุประสงค์ของสัญญาซื้อขาย ฯลฯ เป็นต้น
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานสัญญา : เป็นการจำเป็นในการปฏิบัติตามสัญญาระหว่างบริษัทฯ กับลูกค้า เช่น การบริหารและให้บริการตามกำหนดในสัญญาซื้อขาย การติดต่อลูกค้า การติดต่อผู้เกี่ยวข้องกับลูกค้า ฯลฯ เป็นต้น ซึ่งบริษัทฯ จะไม่สามารถดำเนินการได้เลยหากปราศจากข้อมูลดังกล่าว

              (ค) เพื่อวัตถุประสงค์ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ การพัฒนาการให้บริการ การส่งเสริมการขาย การประชาสัมพันธ์ การวิเคราะห์ข้อมูลและสำรวจพฤติกรรมของลูกค้า การทำสถิติ การพัฒนาระบบป้องกันความปลอดภัยของข้อมูล การรับเรื่องร้องเรียนจากลูกค้า
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : เป็นการจำเป็นในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยคำนึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลเป็นสำคัญ

             (ง) เพื่อวัตถุประสงค์ในการใช้ข้อมูลลูกค้าในการออก ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ทั้งนี้ บริษัทอาจจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไว้เพื่อความสะดวกและรวดเร็วในการออก ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษี ในครั้งต่อไปที่ท่านมาใช้บริการ
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย : เพื่อจำเป็นต้องขอข้อมูลส่วนบุคคลของท่านเพื่อใช้ในการออก ใบเสร็จรับเงิน/ใบกำกับภาษีโดยเป็นไปตามประมวลรัษฎากรและกฎหมายหรือประกาศอื่นที่เกี่ยวข้อง

            (จ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของบริษัทฯ และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของหน่วยงานของรัฐและเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย : เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับบริษัทฯ เช่น กฎหมายว่าด้วยภาษีอากร ประกาศ/ระเบียบ/กฎหมายว่าด้วยการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล และคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมายของเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ฯลฯ เป็นต้น

            (ช) เพื่อป้องกันและตรวจสอบความผิดปกติของธุรกรรมที่นำไปสู่กิจกรรมที่ผิดกฎหมาย เช่น การตรวจสอบการทุจริต การฟอกเงิน การก่อการร้ายหรือการสนับสนุนการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง การฉ้อโกงประชาชน เป็นต้น
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานการปฏิบัติตามกฎหมาย : เพื่อปฏิบัติตามกฎหมายเกี่ยวกับการปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง หรือตาม กฎ/ระเบียบ/ประกาศ/คำสั่ง ของสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และกฎหมายอื่นใดที่เกี่ยวข้อง

            (ซ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตามหรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : เพื่อความจำเป็นเพื่อการก่อตั้งสิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย การปฏิบัติตาม หรือการใช้สิทธิเรียกร้องตามกฎหมาย หรือการยกขึ้นต่อสู้ซึ่งสิทธิเรียกร้องของบริษัทฯ เช่น การใช้สิทธิทางศาล ฯลฯ
เป็นต้น

           (ฌ) เพื่อวัตถุประสงค์ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยของบุคคล และทรัพย์สินของบริษัทฯ
          ฐานในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล
               ฐานประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย : เป็นการจำเป็นเพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมาย ในการตรวจสอบดูแลความสงบเรียบร้อยและรักษาความปลอดภัยในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือการใช้ภาพบันทึกจากกล้องวงจรปิด (CCTV) เพื่อป้องกันการสูญหาย หรือเสียหายในทรัพย์สินของบริษัทฯ หรือใช้เพื่อติดตามเอาคืนทรัพย์สิน หรือเรียกให้ชดใช้ค่าเสียหาย ในกรณีที่มีการทำให้ทรัพย์สินของบริษัทฯ สูญหาย หรือเสียหาย เป็นต้น

4. การเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคล 

         
          บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่าน ภายใต้วัตถุประสงค์ที่กำหนดและตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ให้แก่บุคคลและหน่วยงานดังต่อไปนี้
          (ก) บริษัทในเครือ คู่สัญญา พันธมิตรหรือองค์กรอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ที่ปรึกษา ผู้วิเคราะห์ข้อมูล ทนายความ ผู้ตรวจสอบภายนอก คู่ค้าทางธุรกิจ ผู้ให้บริการ และผู้ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่บริษัทฯ มอบหมายหรือว่าจ้างให้ทำหน้าที่บริหารจัดการ/ประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่บริษัทฯ ในการให้บริการ ฯลฯ เพื่อประโยชน์โดยชอบด้วยกฎหมายในการดำเนินธุรกิจของบริษัทฯ โดยคํานึงถึงสิทธิขั้นพื้นฐานของท่านเป็นสำคัญ
          (ข) บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่เจ้าหน้าที่ของรัฐหรือหน่วยงานที่มีอำนาจหน้าที่ หรือมีคำสั่งโดยชอบด้วยกฎหมาย เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายกำหนด หรือการใช้สิทธิตามกฎหมาย เช่น ศาล เป็นต้น การดำเนินการตามคำร้องขอจากแต่ละหน่วยงานรัฐตามกฎหมายแห่งราชอาณาจักรไทยอื่นๆ
          (ค) บริษัทฯ อาจเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลให้แก่สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เพื่อดำเนินการตามที่กฎหมายว่าด้วยการปราบปรามการฟอกเงินและต่อต้านการสนับสนุนการก่อการร้ายและการแพร่ขยายอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูง และที่เกี่ยวข้องกำหนดในการเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านให้กับบุคคลดังกล่าวข้างต้น บริษัทฯ จะจัดให้มีมาตรการที่เหมาะสมเพื่อคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เปิดเผย ตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด ในกรณีที่บริษัทฯ จะต้องเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศ บริษัทฯ จะดำเนินการเพื่อทำให้แน่ใจว่าผู้รับข้อมูลในประเทศปลายทาง มีมาตรฐานการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลที่เพียงพอ หรือการส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลของท่านไปต่างประเทศเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กฎหมายคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลกำหนด


  1. ระยะเวลาเก็บรักษาข้อมูลส่วนบุคคล และการรักษาความปลอดภัยข้อมูล

           
            บริษัทฯ จะทำการจัดเก็บ ประมวลผล ใช้ ข้อมูลส่วนบุคคลของท่านตลอดระยะเวลาที่สัญญายังคงมีผลบังคับใช้อยู่ และเป็นระยะเวลา 5 ปี นับตั้งแต่สิ้นสุดสัญญากับบริษัทฯ ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้วจะทำลายข้อมูล/เอกสารด้วยวิธีการที่เหมาะสม
              ในกรณีที่มีกฎหมายกำหนดไว้ให้เก็บรักษาข้อมูล/เอกสารดังกล่าวต่อไปอีก บริษัทฯ จะเก็บรักษาข้อมูล/เอกสารนั้นไว้เป็นระยะเวลาตามที่กฎหมายกำหนด ซึ่งเมื่อครบกำหนดเวลาดังกล่าวแล้ว บริษัทฯ จะทำลายข้อมูล/เอกสารด้วยวิธีการที่เหมาะสม
              บริษัทฯ มีนโยบายการรักษาความปลอดภัยทางสารสนเทศที่มีมาตรฐาน แนวทางการควบคุมการใช้งานข้อมูลตามระดับความสำคัญ มาตรการรักษาความปลอดภัยทางกายภาพ คู่มือและมาตรฐานขั้นต่ำในการจัดการข้อมูลส่วนบุคคลเพื่อควบคุมการใช้งานข้อมูลให้ปลอดภัยและป้องกันการเข้าถึงโดยไม่ได้รับอนุญาต โดยนโยบายและแนวทางการควบคุมความปลอดภัยของข้อมูลจะบังคับใช้กับบุคคลและผู้ให้บริการภายนอกที่เชื่อมต่อหรือสามารถเข้าถึงข้อมูลภายใต้การดูแลรับผิดชอบโดยตรงของบริษัทฯ นอกจากนี้ พนักงาน ลูกจ้าง ตัวแทนหรือผู้ให้บริการภายนอกของบริษัทฯ มีหน้าที่ต้องรักษาความลับของข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลตามสัญญารักษาความลับที่ลงนามไว้กับบริษัทฯ อย่างเข้มงวด

    6. สิทธิของเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคล

             
              ท่านมีสิทธิในการดำเนินการ ดังต่อไปนี้
              (1) ท่านมีสิทธิในการเพิกถอนความยินยอมในการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคลที่ท่านได้ให้ความยินยอมไว้กับบริษัทฯ (หากมี)
              (2) ท่านมีสิทธิในการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน รวมทั้งขอรับสำเนาส่วนบุคคล และขอให้เปิดเผยการได้มากรณีที่ไม่ได้รับความยินยอมจากท่านก่อน (หากมี)
              (3) ท่านมีสิทธิในการขอรับหรือขอให้บริษัทฯ ส่งหรือโอนข้อมูลส่วนบุคคลไปยังผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคลอื่นเมื่อสามารถทำได้ด้วยวิธีการอัตโนมัติ
              (4) ท่านมีสิทธิในการคัดค้านการเก็บรวบรวม ใช้ หรือเปิดเผยข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
              (5) ท่านมีสิทธิในการร้องขอให้บริษัทฯ ดำเนินการลบหรือทำลาย หรือทำให้ข้อมูลส่วนบุคคลเป็นข้อมูลที่ไม่สามารถระบุตัวบุคคลที่เป็นเจ้าของข้อมูลส่วนบุคคลได้
              (6) ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ระงับการใช้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่าน
              (7) ท่านมีสิทธิในการขอให้บริษัทฯ ดำเนินการให้ข้อมูลส่วนบุคคลที่เกี่ยวกับท่านถูกต้องเป็นปัจจุบัน สมบูรณ์ และไม่ก่อให้เกิดความเข้าใจผิด
              (8) ท่านมีสิทธิร้องเรียนต่อเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจในกรณีที่ท่านเห็นว่าบริษัทฯ ดำเนินการไม่เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ. 2562
              สิทธิของเจ้าของข้อมูลดังกล่าวข้างต้นขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหากบริษัทฯ มีประโยชน์อันชอบด้วยกฎหมายในการเก็บข้อมูลส่วนบุคคลของเจ้าของข้อมูลไว้ บริษัทฯ อาจไม่สามารถดำเนินการตามคำร้องขอของเจ้าของข้อมูลได้ เช่น เจ้าของข้อมูลหรือลูกค้ายังมีธุรกรรมรายการซื้อสินค้า-บริการคงค้างกับทางบริษัทฯ หรือบริษัทฯ ต้องเก็บข้อมูลส่วนบุคคลตามระยะเวลาที่กฎหมายกำหนดแม้ว่าเจ้าของข้อมูลจะยุติความสัมพันธ์กับบริษัทฯ แล้วก็ตาม เป็นต้น
  2. รายละเอียดของผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล
           
            หากท่านต้องการสอบถาม หรือมีเหตุร้องเรียนเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคล สามารถติดต่อประสานงานมายังเจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลได้ในช่องทางดังนี้

ผู้ควบคุมข้อมูลส่วนบุคคล : บริษัท เทรชเชอร์ อินโนเวชั่น จำกัด ภายใต้แบรนด์สินค้า-บริการ (“BeHELP”)
สำนักงานตั้งอยู่ : ห้อง 25/B ชั้น 25 ที่อยู่ 333 อาคารเล้าเป้งง้วน 1 ถนน วิภาวดีรังสิต แขวงจอมพล เขตจตุจักร      
                            กรุงเทพมหานคร 10900                      
         
เจ้าหน้าที่คุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล: ฝ่ายกำกับดูแลการปฏิบัติงาน
 บริษัท เทรชเชอร์ อินโนเวชั่น จำกัด
ห้อง 25/B ชั้น 25 ที่อยู่ 333 อาคารเล้าเป้งง้วน 1 ถนน วิภาวดีรังสิต
แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร 10900
อีเมล์ [email protected]

          สำหรับรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการดำเนินการเกี่ยวกับข้อมูลส่วนบุคคลของบริษัทฯ โปรดดูนโยบายการคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล ที่เปิดเผยไว้ในเว็บไซต์ https://www.behelpthailand.com/

8. การเปลี่ยนแปลงเอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice)

         
          เพื่อให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 เอกสารแจ้งการประมวลผลข้อมูลส่วนบุคคล (Privacy Notice) ฉบับนี้ อาจมีการแก้ไขเปลี่ยนแปลงในแต่ละคราว โดยบริษัทฯ จะแสดงฉบับที่เป็นปัจจุบันไว้บนเว็บไซต์ของบริษัทฯ ที่เกี่ยวข้องกับ หรือแจ้งเป็นลายลักษณ์อักษรต่อไป

          หมายเหตุ : เอกสารฉบับนี้เป็นการแจ้งเพื่อให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันที่ 01 กันยายน 2566 เป็นต้นไป และ/หรือให้มีผลใช้บังคับในวันเดียวกันกับวันที่การคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคลตามพระราชบัญญัติคุ้มครองข้อมูลส่วนบุคคล พ.ศ.2562 มีผลใช้บังคับทั้งฉบับ

(ปรับปรุงล่าสุด 01 กันยายน 2566)